นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด
บริษัท ฟุตาบะ เจทีดับบลิว (ประเทศไทย) จำกัด ใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบ ๆ อาคารสถานที่ เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
ลูกค้า ผู้รับจ้าง ผู้มาเยือน หรือบุคคลใด ๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแล ทั้งภายในอาคารและบริเวณโดยรอบ ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า "ท่าน") นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่บริษัท
เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ ("ข้อมูลส่วนบุคคล") ของท่าน บริษัทอาจแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ และจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากสามารถกระทำได้
1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทเก็บรวบรวมภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว [เสียง] และภาพสิ่งของ (เช่น ยานพาหนะของท่าน) เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ("ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด") ในบางกรณี บริษัทอาจจะ เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน (เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าของท่าน) ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
2. วิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1. บริษัทอาจ เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนำ ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพื่อ "วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด" ดังต่อไปนี้
(ก) เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
(ข) เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลาย และจากอาชญากรรมอื่น ๆ
(ค) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้อง ร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
(ง) เพื่อสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัย หรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มี ประสิทธิภาพ
(จ) เพื่อสนับสนุนในการสอบสวน หรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
(ฉ) เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะคดี แรงงาน
(ช) เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
2.2. บริษัทจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในที่ที่เห็นได้ง่าย พื้นที่ที่บริษัทจะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้แก่ [ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ำ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือพื้นที่อื่นที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน]
2.3. กล้องโทรทัศน์วงจรปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน และอาจจะมีการบันทึกเสียง
2.4. บริษัทจะติดตั้งป้ายที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
3. ฐานทางกฎหมาย
บริษัทจะไม่ เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้น ในกรณีต่อไปนี้ (ก) เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล (ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการปก- ป้อง คุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของบริษัทและกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บริษัทจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลดังกล่าวตามความเหมาะสม (ค) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีหน้ำที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทเห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้
4. บุคคลที่บริษัทเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1. บริษัทจะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด ยกเว้นบริษัทในกลุ่ม ("บริษัทในกลุ่ม Futaba") บุคคลภายนอกที่บริษัท คัดเลือกอย่างระมัดระวัง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผู้ที่ได้รับสิทธิ หุ้นส่วนของกิจการร่วมค้ำ และ/หรือ ผู้ให้บริการ [ซึ่งอาจอยู่ในต่างประเทศ] เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้
4.2. บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง
(ก) บริษัทในกลุ่ม Futaba บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัทในกลุ่ม Futaba เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และของบริษัทใน- กลุ่ม Futaba ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(ข) หน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและ ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับ ใช้กฎหมายในการสอบสวนหรือดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งหรืออาญา
(ค) ผู้ให้บริการจากภายนอก บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคล อื่นที่เกี่ยวกับท่านให้กับผู้ให้บริการจากภายนอก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน
5. การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ
5.1. บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยัง [ผู้ให้บริการจากภายนอก] ที่ อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น เว้นแต่จะมีฐานทางกฎหมายที่สำคัญ อื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทและบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
5.2. ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็น ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น
6. มาตรการรักษาความปลอดภัย
6.1. บริษัทใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกัน ด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล จากความเสียหาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยโดยอุบัติเหตุ โดยมิชอบ หรือโดยปราศจากอำนาจ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทได้ดำเนินการจัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนด สิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนำข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้เรายังวาง มาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.2. บริษัทจะทำการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทเป็นครั้งคราวตามที่จำเป็นหรือเมื่อ มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำทางกฎหมาย ตามที่หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกำหนด
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในระบบของบริษัทเป็นระยะเวลาที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้ เมื่อบริษัทไม่ได้รับ อนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป บริษัทจะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอาจถูกเก็บไว้จนกว่ำจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
8.1. หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท ท่านอาจจะมีสิทธิต่อไปนี้ตามกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(ก) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาของข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน
หรือขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะต้องส่งคำขอเป็นหนังสือไปยัง [ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ] บริษัทจะดำเนินการกับคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับจำกวันที่บริษัทได้รับคำขอของท่าน บริษัท อาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมายของบริษัทหรือตามคำสั่งศาล และหากการเข้าถึงและคำขอสำเนำข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ ผู้อื่น หากบริษัท ตัดสินว่าต้องปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และส่งหนังสือดังกล่าวให้ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ข) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็น ปัจจุบัน
(ค) สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลอื่น บริษัทจะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับคำขอ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากบริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญมากกว่าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามกฎหมาย หากบริษัทตัดสินใจว่าจะปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และจะส่งหนังสือดังกล่าวให้แก่ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ง) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ทุกเมื่อ
(จ) สิทธิในการลบข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทอาจต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง ตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ฉ) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทครอบครองอยู่ ใน-รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ ควบคุมข้อมูลอื่น โดยที่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท และ (ข) ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยบนฐานความยินยอมของท่าน
(ช) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นการชั่วคราวในส่วนที่บริษัทไม่มีสิทธิเก็บรักษาไว้แล้ว หรือเมื่อท่านจำเป็น ต้องใช้ข้อมูลนั้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ซ) สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหากบริษัท ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย รวมถึงนโยบายและข้อบังคับอื่น ๆ
9. การติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือหากท่านต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของท่าน โปรดติดต่อที่
บริษัท ฟุตาบะ เจทีดับบลิว (ประเทศไทย) จำกัด
78 หมู่ 2 นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ซอย 12 ถนนบางนา-ตราด กม.36
ตำบลพิมพา อำเภอบางปะกง
จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โทร. 038-522-270-4 ต่อ 202
1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทเก็บรวบรวมภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว [เสียง] และภาพสิ่งของ (เช่น ยานพาหนะของท่าน) เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ("ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด") ในบางกรณี บริษัทอาจจะ เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน (เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าของท่าน) ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
2. วิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1. บริษัทอาจ เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนำ ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพื่อ "วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด" ดังต่อไปนี้
(ก) เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
(ข) เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลาย และจากอาชญากรรมอื่น ๆ
(ค) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้อง ร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
(ง) เพื่อสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัย หรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มี ประสิทธิภาพ
(จ) เพื่อสนับสนุนในการสอบสวน หรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
(ฉ) เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิ หรือยกขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะคดี แรงงาน
(ช) เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
2.2. บริษัทจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในที่ที่เห็นได้ง่าย พื้นที่ที่บริษัทจะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้แก่ [ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ำ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือพื้นที่อื่นที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน]
2.3. กล้องโทรทัศน์วงจรปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน และอาจจะมีการบันทึกเสียง
2.4. บริษัทจะติดตั้งป้ายที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
3. ฐานทางกฎหมาย
บริษัทจะไม่ เก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้น ในกรณีต่อไปนี้ (ก) เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล (ข) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการปก- ป้อง คุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของบริษัทและกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บริษัทจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลดังกล่าวตามความเหมาะสม (ค) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีหน้ำที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทเห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้
4. บุคคลที่บริษัทเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1. บริษัทจะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด ยกเว้นบริษัทในกลุ่ม ("บริษัทในกลุ่ม Futaba") บุคคลภายนอกที่บริษัท คัดเลือกอย่างระมัดระวัง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผู้ที่ได้รับสิทธิ หุ้นส่วนของกิจการร่วมค้ำ และ/หรือ ผู้ให้บริการ [ซึ่งอาจอยู่ในต่างประเทศ] เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้
4.2. บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง
(ก) บริษัทในกลุ่ม Futaba บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัทในกลุ่ม Futaba เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และของบริษัทใน- กลุ่ม Futaba ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(ข) หน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและ ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับ ใช้กฎหมายในการสอบสวนหรือดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งหรืออาญา
(ค) ผู้ให้บริการจากภายนอก บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคล อื่นที่เกี่ยวกับท่านให้กับผู้ให้บริการจากภายนอก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน
5. การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ
5.1. บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยัง [ผู้ให้บริการจากภายนอก] ที่ อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น เว้นแต่จะมีฐานทางกฎหมายที่สำคัญ อื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทและบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
5.2. ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็น ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น
6. มาตรการรักษาความปลอดภัย
6.1. บริษัทใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกัน ด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล จากความเสียหาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยโดยอุบัติเหตุ โดยมิชอบ หรือโดยปราศจากอำนาจ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทได้ดำเนินการจัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนด สิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนำข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้เรายังวาง มาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.2. บริษัทจะทำการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทเป็นครั้งคราวตามที่จำเป็นหรือเมื่อ มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำทางกฎหมาย ตามที่หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกำหนด
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในระบบของบริษัทเป็นระยะเวลาที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายนี้ เมื่อบริษัทไม่ได้รับ อนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป บริษัทจะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอาจถูกเก็บไว้จนกว่ำจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
8.1. หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท ท่านอาจจะมีสิทธิต่อไปนี้ตามกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(ก) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาของข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน
หรือขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะต้องส่งคำขอเป็นหนังสือไปยัง [ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ] บริษัทจะดำเนินการกับคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับจำกวันที่บริษัทได้รับคำขอของท่าน บริษัท อาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมายของบริษัทหรือตามคำสั่งศาล และหากการเข้าถึงและคำขอสำเนำข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ ผู้อื่น หากบริษัท ตัดสินว่าต้องปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และส่งหนังสือดังกล่าวให้ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ข) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็น ปัจจุบัน
(ค) สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลอื่น บริษัทจะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับคำขอ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากบริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญมากกว่าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามกฎหมาย หากบริษัทตัดสินใจว่าจะปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และจะส่งหนังสือดังกล่าวให้แก่ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(ง) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ทุกเมื่อ
(จ) สิทธิในการลบข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทอาจต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง ตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ฉ) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทครอบครองอยู่ ใน-รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ ควบคุมข้อมูลอื่น โดยที่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท และ (ข) ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยบนฐานความยินยอมของท่าน
(ช) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นการชั่วคราวในส่วนที่บริษัทไม่มีสิทธิเก็บรักษาไว้แล้ว หรือเมื่อท่านจำเป็น ต้องใช้ข้อมูลนั้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ซ) สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหากบริษัท ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย รวมถึงนโยบายและข้อบังคับอื่น ๆ
9. การติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือหากท่านต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของท่าน โปรดติดต่อที่
บริษัท ฟุตาบะ เจทีดับบลิว (ประเทศไทย) จำกัด
78 หมู่ 2 นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ซอย 12 ถนนบางนา-ตราด กม.36
ตำบลพิมพา อำเภอบางปะกง
จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โทร. 038-522-270-4 ต่อ 202